ความอยาก เป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดที่ทำให้เราได้ไปถึงฝัน ความอยากไม่ใช่อะไรที่คุณอยากได้เหมือนแฟชั่นที่คุณซื้อเพียงชั่วคราว แต่มันควรจะเป็นความอยากได้บางอย่าง อย่างแท้จริง
ความอยาก เปรียบเสมือน น้ำมัน
ความอยาก เปรียบเสมือน อาหารที่คนต้องกิน
คนส่วนใหญ่มักพูดว่า เขาตั้งใจทำแล้วแต่ไม่สำเร็จ หรือทำแล้วออกมาไม่ดีอย่างที่คิด หรือตั้งใจทำแล้วแต่ล้มเหลวตลอด จนชีวิตนี้ไม่เคยพบความสำเร็จใดๆ เลย
คุณลองย้อนถามตัวเองว่า
คุณมีความกระหายมากพอไหม ที่จะพิชิตความสำเร็จ
ทำไมความอยากถึงสำคัญ
แล้วเราจะสร้างความอยากได้อย่างไร ???????
ถ้าเราติดอยู่ในความสบายสิ่งที่ฆ่าความอยากของคุณคือ Comfort Zone หรือ พื้นที่ที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจ ไม่กล้าทำอะไรที่ไม่คุ้นเคย ไม่กล้าเผชิญปัญหากับโลกภายนอก
คนส่วนใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเพราะมักติดการใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ Comfort Zone เช่น ทำงานประจำ มีเงินเดือนทุกเดือน เพียงเท่านี้ก็คิดว่าชีวิตมั่นคงแล้ว ไม่เห็นจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไร
ทุกคนอยากประสบความสำเร็จ แต่ทั้งหมดถูกปิดกั้นด้วยความกลัว และพื้นที่ Comfort Zone แต่ถ้าคุณกล้าก้าวออกจากความกลัว และลงมือทำทันที ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่มหาศาลในเวลาต่อมา
"มนุษย์เรามักกลัวสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น"
เทคนิคสร้างความอยาก และ ดึงตัวเองออกจากกรอบเดิม
- คุณต้องสร้างความเจ็บปวดบางอย่างที่ทำให้คุณคิดจะเปลี่ยน เพราะถ้าไม่มีความเจ็บปวด ชีวิตคุณก็จะไม่เปลี่ยน เช่น คุณตัน อิชิตัน เขามาจากครอบที่ยากจน เริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างจากศูนย์ แต่คุณตันใช้ความกล้า และความอยากประสบความสำเร็จ เป็นแรงผลักดันอยู่เบื้องหลัง จึงมีแรงขับเคลื่อนจากภายในที่ช่วยผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จ
คุณต้องหาความเจ็บปวดของตนเองให้เจอ แล้วทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าเรายังเป็นแบบนี้อยู่จะไม่มีความสุข เราจะรู้สึกแย่ เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากหลุดพ้นจากความเจ็บปวดเหล่านี้เราต้องยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง "เปลื่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า"
2. หาเป้าหมายให้เจอ เมื่อมีความอยากที่ชัดเจนแล้ว ต้องตั้งเป้าหมาย แล้วลงมือทำทันที มันเหมือนกับว่า คุณอยากผอมมากๆ แต่คุณไม่ลงทำ มันก็จะเกิดช่องว่างระหว่าง ผลลัพธ์กับการไม่ลงมือทำ
เมื่อคุณมีคำตอบให้ตัวเองแล้ว สะสมแรงอัด สะสมเชื้อเพลิง สะสมความอยากให้เต็มที่ เดินหน้าเต็มกำลัง พร้อมทะยานขึ้นจากความหลับใหล ผ่านแรงเสียดทาน มุ่งหน้าสู่เป้าหมาย นั่นคือ การประสบความสำเร็จในชีวิตนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น