สร้างความแตกต่างในธุรกิจ MLM ด้วยการเขียน Blog

                      หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ก้าวมาทำธุรกิจ MLM และยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดีกับการทำธุรกิจเครือข่าย ดิฉันขอแนะำนำให้คุณรู้จัก สร้างโอกาสในธุรกิจด้วยการใช้ Blog
                   
                      วิธีนี้เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณไม่ต้องคอยโทรชวน โทรตื้อขายของ โทรแนะนำธุรกิจให้แก่เพื่อนฝูง หรือ ญาติของคุณ คุณไม่ต้องวิ่งไล่ล่าผู้มุ่งหวังอีกต่อไป วิธีการสร้าง Blog จะเน้นที่ให้ "ผู้มุ่งหวัง" ได้มีโอกาสรับรู้ข่าวสาร,เทคนิคดีๆ จากคุณ ได้แสดงความคิดเห็นแลกเปลื่ยน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้น จนผู้มุ่งหวังรู้จักและเชื่อมั่นในตัวคุณ และอยากที่จะร่วมงานกับคุณด้วยความยินดี

Blog เป็น Social Media ที่สำคัญอย่างหนึ่งในการทำการตลาดแบบออนไลน์ (Online Marketing) ซึ่งถูกพิสูจน์ด้วยนักการตลาด MLM จากหลายสำนักแล้วว่า มันได้ผลจริง และเป็นเครื่องมืออีก 1 อย่างที่ช่วยให้นักการตลาด MLM ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างมาก

วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการสร้าง Blog คือ ใช้เพื้อสร้างความแตกต่าง สร้างความโดดเด่น หรือ เรียกง่ายๆ ก็คือ การสร้าง Blog เพื่อการ Branding ตัวเราเอง ลองมาดูข้อดี และ จุดเด่นของการมี Blog กันเลยค่ะ

1.เตรียมตัวเป็น Superstar ในโลกออนไลน์

คุณต้องเริ่มจากการแนะนำตัว หรือ แบรนด์ตัวเอง ให้ผู้มุ่งหวังรู้จักคุณ โดยคุณควรจะบอกชื่อ และ แสดงภาพถ่ายของคุณ เพราะในโลกออนไลน์  เราจะได้รับข่าวทางด้านลบในเรื่องของการใช้ internet มากกว่า ด้านบวก การที่คุณแจ้งชื่อ และแสดงภาพถ่ายที่เห็นหน้าชัดเจน เป็นการแสดงความจริงใจในการทำธุรกิจว่าโปร่งใส 100% 

2.ติดต่อกับผู้อื่นผ่านสังคมเครือข่ายได้ง่ายขึ้น

คุณสามารถสื่อสารแบ่งปันความรู้ เรื่องราว บทความต่างๆ ผ่านทางสังคมเครือข่ายออนไลน์แก่ผู้ที่สนใจได้สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น ผู้คนมากมายทั่วโลกสามารถติดต่อคุณได้ตลอดเวลา และ Blog นี่เองที่ผู้ที่สนใจในแบบเดียว ในเรื่องเดียวกับคุณสามารถแสดงความคิดเห็นได้ในบล็อกได้ทุกเมื่อ และด้วยวิธีนี้ Blog ของคุณจะกลายเป็นอุปกรณ์เครือข่ายที่ดีที่สุด 

3.พัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ

การเพิ่มทักษะในการเขียน เป็นสิ่งจำเป็นที่คุณควรฝึกฝนเป็นประจำ เพราะว่าการเขียนบทความที่มีคุณภาพใน Blog จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ในเชิงบวกให้ตัวคุณเป็นอย่างดี ควรเริ่มจากการอ่านบทความตาม Blog ต่าง แล้วเรียบเรียง เขียนออกมาด้วยภาษาของเราเองที่เข้าใจง่าย

4. Branding ตนเองให้ล้ำกว่าใคร

Blog เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่ช่วยส่งบทความอันทรงคุณค่าของเราผ่านไปหาผู้มุ่งหวังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกบทความที่มีคุณค่าจากการสร้างสรรค์อย่างสม่ำเสมอในบล็อกของคุณ จะถูกค้นพบได้ใน Google ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลที่ช่วยให้คุณแบรนด์ตัวเองให้เป็นที่น่าเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น

5.สร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีเยี่ยม

การเขียนบทความที่น่าสนใจใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอ และมีการแสดงความคิดเห็นผ่านทางบล็อก ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของ Blog และ ผู้มุ่งหวังได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ผู้มุ่งหวังรู้สึกว่าต้องการรับรู้ข่าวสารจากคุณอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อ Blog ของคุณเป็นที่ยอมรับ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มุ่งหวังได้มากมาย ช่วยสร้างความมั่นใจ ความน่าเชื่อถือ ด้วยวิธีการเหล่านี้ทำให้สร้างความแตกต่างในธุรกิจเครือข่าย MLM คุณก็จะมีผู้มุ่งหวังที่มีคุณภาพ พร้อมที่จะรับฟังโอกาสทางธุรกิจ และพร้อมจะเข้าร่วมธุรกิจกับคุณทุกเมื่อ

ขอให้ทุกท่านโชคดี

มือใหม่หัดใช้ Blog

การมีบล็อคก็เหมือนกับเรามีหน้าร้านส่วนตัวที่ทำงานแทนเรา 24 ชั่วโมง เหมือนมี 7-11 อยู่กับตัว ในเชิงธุรกิจ ในขณะที่เรานอน Blog ก็จะยังทำงานแทนเรา คอยเปิดบ้านต้อนรับแขกแทนเรา 24 ชั่วโมง และที่สำคัญฟรี !! ค่ะ  มารู้จักวิธีการสมัครบล็อคโดย Blogger กันเลยค่ะ


ก่อนอื่นเข้าไปที่ Blogger.com

หน้าถัดมาก็จะเจอหน้านี้ค่ะ

กรอกข้อมูลในหน้า 2 ให้ครบถ้วน สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ gmail แล้วกดดำเนินการต่อเลยค่ะ

หน้านี้อย่าลืมตั้งชื่อบล็อคให้ตรงกับสินค้า หรือ วัตถุประสงค์ในการทำบล็อคของเรา และไม่ต้องยากนะคะ เพื่อจะเป็นการง่ายต่อ Robot ของ google ในการเข้ามาแวะเยี่ยมบล็อคของเรา ซึ่งจะมีผลต่อระบบการค้นหา หรือ ช่วยให้บล็อคของเราง่ายต่อการติด search engine ในอนาคต

เลือก Theme ได้ตามที่เราต้องการเลยค่ะ 

เมื่อมาถึงหน้านี้ แสดงว่า เราสร้างบล็อคได้เสร็จสมบูรณ์แล้วจ้า 

เริ่มลงมือเขียนกันได้เลยค่ะ พยายามให้มี Keyword ที่เราต้องการสื่อให้เยอะๆ นะคะ เพื่อง่ายต่อการติดอันดับใน seach engine ค่ะ

"ความอยาก" ระเบิดทุกสิ่ง

ความอยาก เป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดที่ทำให้เราได้ไปถึงฝัน ความอยากไม่ใช่อะไรที่คุณอยากได้เหมือนแฟชั่นที่คุณซื้อเพียงชั่วคราว แต่มันควรจะเป็นความอยากได้บางอย่าง อย่างแท้จริง

ความอยาก เปรียบเสมือน น้ำมัน

ความอยาก เปรียบเสมือน อาหารที่คนต้องกิน

คนส่วนใหญ่มักพูดว่า เขาตั้งใจทำแล้วแต่ไม่สำเร็จ หรือทำแล้วออกมาไม่ดีอย่างที่คิด หรือตั้งใจทำแล้วแต่ล้มเหลวตลอด จนชีวิตนี้ไม่เคยพบความสำเร็จใดๆ เลย

คุณลองย้อนถามตัวเองว่า

คุณมีความกระหายมากพอไหม ที่จะพิชิตความสำเร็จ

ทำไมความอยากถึงสำคัญ

                     แล้วเราจะสร้างความอยากได้อย่างไร ???????

                 

ถ้าเราติดอยู่ในความสบายสิ่งที่ฆ่าความอยากของคุณคือ Comfort Zone หรือ พื้นที่ที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจ ไม่กล้าทำอะไรที่ไม่คุ้นเคย ไม่กล้าเผชิญปัญหากับโลกภายนอก 

                คนส่วนใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเพราะมักติดการใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ Comfort Zone เช่น ทำงานประจำ มีเงินเดือนทุกเดือน เพียงเท่านี้ก็คิดว่าชีวิตมั่นคงแล้ว ไม่เห็นจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไร

                ทุกคนอยากประสบความสำเร็จ แต่ทั้งหมดถูกปิดกั้นด้วยความกลัว และพื้นที่ Comfort Zone แต่ถ้าคุณกล้าก้าวออกจากความกลัว และลงมือทำทันที ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่มหาศาลในเวลาต่อมา

"มนุษย์เรามักกลัวสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น"

เทคนิคสร้างความอยาก และ ดึงตัวเองออกจากกรอบเดิม

1. คุณต้องสร้างความเจ็บปวดบางอย่างที่ทำให้คุณคิดจะเปลี่ยน เพราะถ้าไม่มีความเจ็บปวด ชีวิตคุณก็จะไม่เปลี่ยน เช่น คุณตัน อิชิตัน เขามาจากครอบที่ยากจน เริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างจากศูนย์ แต่คุณตันใช้ความกล้า และความอยากประสบความสำเร็จ เป็นแรงผลักดันอยู่เบื้องหลัง จึงมีแรงขับเคลื่อนจากภายในที่ช่วยผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จ

          คุณต้องหาความเจ็บปวดของตนเองให้เจอ แล้วทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าเรายังเป็นแบบนี้อยู่จะไม่มีความสุข เราจะรู้สึกแย่ เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากหลุดพ้นจากความเจ็บปวดเหล่านี้เราต้องยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง "เปลื่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า"

      2. หาเป้าหมายให้เจอ เมื่อมีความอยากที่ชัดเจนแล้ว ต้องตั้งเป้าหมาย แล้วลงมือทำทันที มันเหมือนกับว่า คุณอยากผอมมากๆ แต่คุณไม่ลงทำ มันก็จะเกิดช่องว่างระหว่าง ผลลัพธ์กับการไม่ลงมือทำ

                เมื่อคุณมีคำตอบให้ตัวเองแล้ว สะสมแรงอัด สะสมเชื้อเพลิง สะสมความอยากให้เต็มที่ เดินหน้าเต็มกำลัง พร้อมทะยานขึ้นจากความหลับใหล ผ่านแรงเสียดทาน มุ่งหน้าสู่เป้าหมาย นั่นคือ การประสบความสำเร็จในชีวิตนั่นเอง

แหล่งพลังงานที่ยิ่งใหญ่ในตัวคุณ

           
                                 คุณเชื่อหรือไม่ว่า.......มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับศักยภาพที่เท่าเทียมกัน และมีพลังมหาศาลซ่อนอยู่ในตัว แล้วคุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า เหตุใดเมื่อโตขึ้น บางคนกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองมีศักยภาพเลย คิดเพียงแต่ว่าตัวเองอ่อนแอ ด้อยความความสามารถจนพาลเบื่อหน่ายชีวิตที่มีอยู่เต็มทน

ซึ่งแตกต่างจากคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต บางคนไปไกลถึงระดับโลก จนนำมาซึ่งความสำเร็จในอาชีพการงาน ชื่อเสียง เงินทอง คนที่ประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เพราะโชคดี หรือ โชคช่วย หรือเป็นเพราะบุญเก่า แต่สิ่งที่เปลี่ยนชีวิตแต่ละคนอยู่ที่ใครจะสามารถดึงพลังของตัวเองออกมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพต่างหาก

ทีนี้ยิ่งสงสัยหรือไม่ว่า แหล่งพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่คุณไม่จำเป็นต้องออกเดินทางไกลเพื่อตามหามัน ไม่ต้องลงทุนด้วยเงินมหาศาล แต่มันติดอยู่กับคุณมาตั้งแต่เกิด

พลังที่ว่านั้นก็คือ พลังจากใจคุณเอง !!

หน้าที่สำคัญของนักธุรกิจเครือข่ายมือทอง

ในปัจจุบัน ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดธุรกิจหนึ่งในระบบการค้า มีเงินหมุนเวียนทั่วโลกกว่า 45 พันล้านเหรียญ หรือ 1.8 ล้านล้านบาท

นับจากวันแรกที่ท่านเริ่มก้าวเข้าสู่สังเวียนของนักการตลาดแบบเครือข่าย ท่านต้องคำนึงถึงหน้าที่หลัก 3 ประการ ของนักธุรกิจเครือข่ายมือทอง เพราะทันทีที่ท่านเข้าร่วมธุรกิจ ท่านเป็นเจ้าของธุรกิจของท่านเองอย่างเต็มตัว ท่านเป็นผู้กำหนดว่าท่านจะทำงานอย่างไร ที่ไหน และเมื่อไหร่ ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ท่านเป็นตัวกำหนดทั้งสิ้น

หน้าที่หลัก 3 ประการของนักธุรกิจเครือข่าย

1. ใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวของท่านเองจนเกิดความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ พูดง่ายๆ ก็คือ จงรักในผลิตภัณฑ์ของท่านเอง เป็นลูกค้าที่ดีที่สุดของท่านเอง และอย่าลืมที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวท่านเอง
2. แนะนำผลิตภัณฑ์แก่บุคคลอื่น การแนะนำไม่ใช่เรื่องยาก หากท่านลองนึกเหตุการณ์ที่เปรียบเสมือนกับการแนะนำที่เกิดขึ้นกับตัวท่านเอง เช่น เราไปทานอาหารร้านหนึ่งมา ต้มยำกุ้งอร่อยมากกก เราก็บอกต่อ บอกเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน ญาติของเราเอง แบบนี้เราก็เรียกว่าการแนะนำเหมือนกัน เพียงแต่ท่านอาจจะแนะนำไปโดยไม่รู้ตัว ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าจากการพูดคุยกับเพื่อนฝูง หรือ ผู้ที่เราเชื่อถือ ทั้งสิ้น  หน้าที่ของนักธุรกิจเครือข่ายที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การแนะนำธุรกิจ วิธีการทำ และปล่อยให้บุคคลนั้นๆ เป็นผู้ตัดสินใจเอง 
3. การสปอนเซอร์บุคคลอื่นเข้าร่วมธุรกิจกับท่าน เมื่อบุคคลอื่นได้เห็นเราสร้างธุรกิจว่ามันสนุก ง่าย และได้เงิน และรับรู้ว่าคนในเครือข่ายของเรามีความสุข กระตือรือร้น และร่วมมือกัน เขาจะนึกอยากที่จะเข้าร่วมธุรกิจกับท่านเอง 

         ในธุรกิจเครือข่ายทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ และระดับของความสำเร็จในธุรกิจก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง ทัศนคติที่มีต่อธุรกิจก็เป็นของตัวท่านเอง ความนึกคิด และความรู้สึกของท่านที่มีต่องานจะสะท้อนออกมาในผลงาน สิ่งที่แสดงออกมาจะบ่งบอกถึงคุณค่าของตัวท่าน และความเพียรพยายามที่ท่านได้กระทำลงไป ไม่มีอะไร และไม่มีใครในธุรกิจนี้ที่จะขัดขวางการทำงานของท่าน ไม่ว่าท่านจะทำในแบบ "ทำไปวันๆ " หรือ "มานะพยายามอย่างเต็มที่" ในการที่จะทะยานขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของธุรกิจ

"ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง"

รู้จัก MLM ให้ถึงแก่น 2

ข้อแตกต่างที่ควรทราบระหว่างการตลาดแบบปกติทั่วไป และ การตลาดแบบเครือข่าย

การตลาดแบบทั่วไป คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ คือ ผู้ที่มีความสามารถในการกระจาจสินค้าได้ในปริมาณที่มากที่สุด

แต่.....

สำหรับธุรกิจเครือข่าย การจะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้ คือ การมีคนจำนวนมากช่วยกันกระจายสินค้าคนละเล็กคนละน้อย และสิ่งสำคัญอีกข้อหนึ่งสำหรับ ผู้ที่จะกระโดดเข้าร่วมวงกับธุรกิจเครือข่ายก็คือ ท่านต้องนึกเสมอว่า ท่านไม่ได้เป็นลูกจ้างใคร มันคือ ธุรกิจของท่านเอง อย่ามองว่าเราเป็นเพียงสมาชิกตัวเล็กๆ ของเครือข่ายนี้ แต่ต้องมองว่า เราจะสร้างเครือข่ายของเรา หรือ บริษัทของเราขึ้นมาได้อย่างไร

วิธีการถ่ายสำเนาตัวเอง หรือ การแบ่งปันความรู้ในสิ่งที่ท่านทำแล้วประสบความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และเป็นวิธีการสอนที่ทรงพลัง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

อย่าลืม แบ่งปันความรู้ที่ท่านมีให้กับคนรอบข้าง แล้วท่านจะมีเครือข่ายที่เข้มแข็งมากยิ่งๆขึ้น

รู้จัก MLM ให้ถึงแก่น

หลายคนอยากกระโดดลงมาทำธุรกิจเครือข่าย , Network Marketing , หรือ MLM เคยรู้กันหรือไม่ว่า มันคืออะไร และแตกต่างจากการตลาดแบบปกติทั่วไปอย่างไร


พูดง่ายๆ ก็คือ ธุรกิจเครือข่ายเป็นเพียงการตลาดอีกระบบหนึ่งที่เรากระจายสินค้า และบริการจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยที่มาในรูปแบบของ ธุรกิจที่ยอมให้คนธรรมดาอย่างพวกเราได้รับส่วนแบ่งของกำไรด้วย นั่นเอง


โดยปกติแล้วผู้ผลิตจะต้องนำสินค้าของตัวเองให้วิ่งไปหาผู้บริโภคให้มากที่สุดและเร็วที่สุด โดยให้ผู้บริโภครู้จัก สัมผัส พบเห็น สินค้าของพวกเขาให้มากที่สุดโดยผ่านสื่อโฆษณา ทั้ง วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือ ตามนิตยสารต่างๆ และต้องให้พ่อค้าคนกลางเป็นผู้กระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค 

ในทางกลับกัน สินค้าชนิดเดียวกัน แต่ ทำการตลาดแบบธุรกิจเครือข่าย ผู้ผลิตสินค้ามีหน้าที่แนะนำสินค้าหรือบริการในลักษณะที่เรียกันว่า "โอกาส" ในการดำเนินธุรกิจ (ในลักษณะที่ใกล้เคียงกับเฟรนไชส์)  ให้แก่นักธุรกิจอิสระจำนวนมาก โดยที่ผู้ผลิตส่งสินค้าให้แก่นักธุรกิจเหล่านี้ในรูปแบบเดียวกับการขายส่ง ให้การอบรม ความรู้ ทักษะต่างๆ ที่มีส่วนช่วยในการส่งเสริมการขาย

นักธุรกิจอิสระเหล่านี้ก็จะแนะนำผลิตภัณฑ์และโอกาสในการทำธุรกิจให้กับบุคคลอื่น จนเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องแบบเดียวกันไปเรื่อยๆ การตลาดแบบเครือข่ายให้ความรู้สึกของ "ความเป็นหุ้นส่วน" โดยที่นักธุรกิจอิสระเอง และตัวบริษัทเครือข่าย เป็นไปในลักษณะพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน


การทำงานในลักษณะนี้ช่วยให้บริษัทตัดงบประมาณจำนวนมากที่ใช้ในการขายและการกระจายสินค้า ไม่ต้องทำโฆษณา เพราะหน้าที่ตรงนี้ ส่งต่อให้นักธุรกิจอิสระที่ดำเนินการโฆษณาในลักษณะ "ปากต่อปาก" และเงินที่ทางบริษัทประหยัดจากการลดค่าโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ก็เปลี่ยนมาเป็น "ค่าคอมมิชชั่น" ให้แก่นักธุรกิจอิสระ หรือ สมาชิก แทน

โปรแกรมจิตใจตนเอง ก่อนกระโดดมาทำธุรกิจเครือข่าย

ทุกท่านลองอ่านคำถามด้านล่างเหล่านี้ดูนะคะว่า ท่านเคยมีคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นในใจหรือไม่

1. อยากทำธุรกิจของตัวเอง ไม่ต้องสต็อกสินค้า ไม่ต้องขาย และสร้างรายได้ไม่จำกัด
2. ว้าว !! ธุรกิจนี้ใช่เลย ธุรกิจในฝัน
3. แต่....เดี๋ยวก่อน มันเป็นธุรกิจเครือข่าย MLM ธุรกิจยี้ !! นะ ทำไปทำมาเดี๋ยวไม่มีคนคบ
4. งานดี เงินดี แต่กลัว หาคนมาต่อไม่ได้
5. และ คำถามอื่นๆๆๆ อีกมากมาย........ที่ล้วนมาจากความวิตกกังวล ไม่มั่นใจ ความเคลือบแคลงสงสัย

หยุด !!! อ่านสิ่งเหล่านี้

ทุกท่านเชื่อซิค่ะว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุด มีมันสมองอันเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่ทำให้เราสามารถสร้างจรวดไปเหยียบดวงจันทร์ ประดิษฐ์ไฟฟ้า รถยนตร์ โทรศัพท์ เพื่อใช้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่พวกเราๆ สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้เกิดจากความเชื่อว่า " เราทำได้ "

เช่นเดียวกัน ถ้าหากท่านอยากทำธุรกิจเครือข่าย เพราะจ่ายหนัก จะได้มีเงินมาใช้หนี้ ส่งลูกเรียน ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่....... กลัวหาคนมาต่อไม่ได้

ดิฉันอยากให้ทุกท่านตั้งโปรแกรมจิตใต้สำนึกของเราใหม่โดย "โปรแกรมจิตใต้สำนึกของเราในเชิงสร้างสรรค์" เพราะจิตใจของคนเราเป็นเสมือนเพื่อนที่ดีที่สุด และ บางครั้งก็เหมือนปิศาจร้ายศัตรูตัวฉกาจ

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณคิดว่า "ฉันหาคนมาต่อไม่ได้หรอก" "ฉันทำไม่ได้หรอก" "มันยากนะ"  แน่นอนคุณทำไม่ได้หรอกค่ะ คุณไม่มีทางสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม เพราะจิตใต้สำนึกของคุณจะหาเหตุผลใส่เข้าไปในหน่วยความจำ และภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่ท่านล้มเหลว ถูกหลอก ก็จะพรั่งพรูขึ้นมา

แต่ในทางกลับกัน คำถามเดียวกัน "มันยากนะ จะหาคนมาต่อได้หรอ" แล้วเราบอกตัวเองว่า เราทำได้ เราต้องทำได้ จิตใต้สำนึกของเราก็จะดึงเหตุผลของจากหน่วยความจำที่จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จออกมาใช้ โดยที่มันจะโปรแกรมจิตใจเราโดยอัตโนมัติว่า "เราทำได้ เราจะไม่ล้มเหลว เราจะประสบความสำเร็จ"

คนที่ประสบความสำเร็จมีหลายๆอย่างที่เหมือนกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "การพัฒนาแนวคิดในการเอาชนะ" เขาจะมองโลกในแง่ดี และเรียนรู้การโปรแกรมความคิดโดยใช้พลังของจินตนาการด้านบวก และเขาจะมองตัวเองประสบความสำเร็จไม่ใช่ล้มเหลว

นักปราชญ์กล่าวว่า "ผู้ชนะเป็นผู้ทำให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น แต่ผู้แพ้ยอมให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้น"

Social Media คือ

นิยามของ Social Media สามารถแยกองค์ประกอบได้ 3 อย่าง ดังนี้

1. เป็นสื่่อที่แพร่กระจายด้วยปฏิสัมพันธ์เชิงสังคม คือ การแบ่งปันเนื้อหากันในรูปของ เนื้อหา รูปภาพ เสียง หรือ วีดีโอ เมื่อมีเรื่องราวที่น่าสนใจ จนเกิดสภาพ Talk of the town เมื่อยู่ในโลกออนไลน์ทำให้การแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
2. ลักษณะของการแพร่กระจายข่าวสารเปลี่ยนไปจากเดิม คือ จากเดิมลักษณะของการส่งสารในแบบทีวี วิทยุ โทรทัศน์ เป็นในลักษณะทางเดียว แต่เมื่อเป็นสังคมแบบ Social Network ทำให้เกิดการส่งสารแบบ 2  ทาง ระหว่างผู้ผลิต และ ผู้บริโภค ทำให้เกิดสภาพใหม่ของกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน โดยที่ไม่มีใครเข้ามาควบคุมเนื้อหาการพูดคุยกันได้
3. เป็นสื่อที่เปลี่ยนพวกเราจากคนธรรมดาเป็นผู้ผลิตเนื้อหา Social Media เป็นสื่อที่แทบไม่มีต้นทุน ทำให้ใครๆ ก็สามารถผลิตเนื้อหาและกระจายไปยังผู้รับสารได้อย่างเสรี และถ้าหากใครผลิตเนื้อหาโดนใจคนหมู่มากก็จะกลายเป็นผู้ทรงอิทธิผลในโลกออนไลน์ได้ทีเดียว

ความแตกต่างระหว่างการตลาดแบบเดิม กับ การตลาดผ่าน Social Media

ความแตกต่างระหว่างการตลาดแบบเดิม และ การตลาดผ่าน Social Media ที่เห็นได้ชัดเจนคือ เรื่่องของการสื่อสาร จากเดิมวิธีการลงโฆษณาทางทีวี วิทยุ โทรศัพท์ ผู้บริโภคจะเป็นผู้รับสารแต่เพียงฝ่ายเดียว  แต่ในทางกลับกัน เมื่อการตลาดผ่าน Social Media ได้รับความนิยม ทำให้ผู้ผลิตสินค้าหันมาสนใจและมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น เกิดการสื่อสารแบบ 2 ทาง ซึ่งทำให้เกิดสังคมในโลกของความเป็นจริง ผู้ผลิตสินค้ารับฟังผู้บริโภคมากขึ้น จึงทำให้ง่ายต่อการเกิด Royalty ของลูกค้า โดยที่ต้นทุนของการทำการตลาดเกือบเป็นศูนย์เมื่อใช้ Social Media เป็นเครื่องมือในการทำการตลาด

มือใหม่สมัครใช้ twitter

Social Media อีกตัวหนึ่งที่ใครไม่รู้จักในยุคนี้คงไม่ได้ ใครที่ยังไม่มีมาลุยกันเลยค่ะ

เข้าตามลิงค์นี้ค่ะ http://twitter.com/?lang=en&logged_out=1#

เรียนรู้วิธีใช้ twitter เพิ่มเติมได้ที่ http://twitter.kapook.com/signup.php

มือใหม่สมัคร facebook

สำหรับมือใหม่อยากมี Facebook ไว้ใช้ไม่ตกเทรนด์เชิญทางนี้เลยค่ะ

คลิกไปตามลิงค์นี้ได้เลยค่ะ http://th-th.facebook.com/r.php

เมื่อกดลงทะเบียนจะเจอหน้านี้

เมื่อเจอหน้าต่อไปนี้ แสดงว่าการสมัครเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่การตกแต่งโปรไฟล์ของตนเอง

ตั้งค่าต่างๆ ได้ที่หมวดนี้เลยค่ะ่

สุดท้าย อย่าลืมตั้งค่า และใส่ข้อมูลส่วนตัวของตนเองให้น่าสนใจนะคะ

มือใหม่สมัคร Gmail

ขั้นตอนง่ายๆ ของการสมัครใช้ Gmail

·   ไปที่ลิงค์ http://mail.google.com/mail/help/intl/th/open.html ไปที่สร้างบัญชีใหม่ เมื่อคลิกจะเจอหน้านี้

ทำตามขั้นตอน เมื่อกรอกทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว กดยอมรับจะเจอหน้าต่อไปนี้

คลิกตามภาพเพื่อเข้าสู่ Inbox ของเรา

เห็นมั๊ยค่ะ การสร้าง email ด้วย gmail ไม่อยากอย่างที่คิดเลยใช่มั๊ยค่ะ อย่าลืมจำ password กันไว้ให้ดีนะคะ คราวหน้าเมื่อต้องการ sing in เข้าระบบ ก็สามารถไปที่ www.google.co.th กันได้เลยค่ะ เพียงแค่นี้มือใหม่ก็มี email เก๋ๆ ใช้กันไม่ตกยุคแล้วหละค่ะ

10 เหตุผลที่ควรใช้ gmail

สำหรับมือใหม่ที่กำลังคิดอยู่ว่าจะใช้ Email ของค่ายไหนอยู่ ลองดู 10 เหตุผลง่ายๆ ที่เราควรมาเลือกใช้ gmail กันนะคะ

ความจริงหมดเปลือกเกี่ยวกับ Global Rich Club

ดี้สรุปให้เข้าใจกันให้ง่ายๆ เกี่ยวกับ Global Rich Club ตามนี้นะคะ 

1. Global Rich Club เป็นธุรกิจเครือข่ายประเภทหนึ่ง
2. ธุรกิจ Global Rich Club คือ อยากให้สมาชิก ซึ่งก็คือ ลูกค้าที่รักการท่องเที่ยว และอยากได้แพคเกจที่พักราคาประหยัดกว่าที่จะจองในท้องตลาดทั่วไป ซึ่งโรงแรมโซนเอเชีย กว่า 20 ประเทศ เช่น ไทย , จีน , ญี่ปุ่น , มาเลยเซีย, สิงคโปร์ , เกาหลี , บรูไน , ลาว , เวียดนาม ฯลฯ ล้วนเป็นโรงแรมระดับ 3-5 ดาว เมื่อสมาชิกไปใช้บริการก็บอกสิ่งดีๆ ต่อๆ กันไปให้แก่เพื่อนฝูง หรือ คนรู้จัก และบริษัท GRC ก็ตอบแทนสมาชิกด้วยให้ค่าคอมมิชชั่นตามแผนการตลาด เหมือนกับการ ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว
3. สิทธิ์ในการจองห้องพักสามารถเก็บไว้ได้ 1 ปีหลังจากวันที่สมัครสมาชิก
4. สมัครสมาชิกครั้งเดียว 7500 บาท ตลอดชีพ ไม่ต้องต่ออายุ
5. หาสมาชิกมาต่อจากเราเพียง 2 คนเท่านั้น
6. เพียงแค่มีอินเตอร์สามารถทำงานได้ทั่วโลก ทำงานออนไลน์ 100% มีทีมงานคอยให้ความช่วยเหลือ มีสื่อการสอนงานที่เข้าใจง่ายทุกคนสามารถเรียนด้วยตนเองได้
7. เพื่อนๆ หันมาสนใจ Global Rich Club มากขึ้น เพราะไม่ต้องขายสินค้า ไม่ต้องสต็อกของ ไม่ต้องรักษายอด ซึ่งเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนทำธุรกิจเครือข่าย
8. ทีมงานมีความจริงใจ ระบบงานเป็นในลักษณะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้ทุกคนประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว
9. ตำแหน่งงานแซงกันได้ ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ จริงจังกับงาน สมัครเพียง 1 รหัสสามารถสร้างรายได้ไม่จำกัดได้

อันนี้ก็คร่าวๆ ในแบบที่ดี้เข้าใจ สงสัย หรือ งงถามดี้เพิ่มเติมได้ที่ ladie.meedee@gmail.com

จุดเด่นของ Global Rich Club

ลองมาดูจุดเด่นของ Global Rich Club กันนะคะ ว่าทำไมวัยทีน วัยโจ๋ ถึงหันมาจับธุรกิจตัวนี้กัน

Global Rich Club ไม่มีสินค้าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่แน่นอน

ถ้าหากว่าท่านเป็นนักการตลาด หรือ เรียนการตลาดมา ท่านจะไม่คิดเลยว่า ธุรกิจที่ Global Rich Club กำลังทำอยู่เป็นแชร์ลูกโซ่ เนื่องจากว่า สินค้า ในเชิงการตลาด จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ

1.     สินค้า ซึ่ง เราจับต้องได้ เช่น ตู้ โต๊ะ หนังสือ ต่างๆ นานา

2.     สินค้าที่มาในรูปของการบริการ เช่น การใช้บริการตามโรงแรม รีสอร์ท  การใช้บริการสปา หรือ การเปิดบริการเคาเตอร์เซอร์วิสเพื่อจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น 

ทีนี้พอหายสงสัยเรื่องเป็นแชร์ลูกโซ่มั๊ยเอ่ย ติดตรงไหน ติดต่อกลับหาดี้ได้ตลอดนะคะ  

ค่าสมัคร 7500 บาท แพงจัง

ค่าซื้อลิขสิทธิ์ 7,500 บาท ดูเผินๆ อาจจะแพงสำหรับบางท่านนะคะ แต่ถ้าเราลองมองในเรื่องความคุ้มค่า ดี้ว่ามันคุ้มกับการลงทุนมากนะคะ ดี้เชื่อว่าท่านที่กำลังอ่านบทความที่ดี้ได้เขียนในบล็อคนี้ ส่วนหนึ่งคงเจอโดยบังเอิญ และอีกส่วนหนึ่งจะต้องเป็นท่านที่กำลังสนใจ อยากหางานเสริม อาชีพเสริม เพื่อหารายได้พิเศษแน่นอน และหลายท่านๆ คงจะได้ผ่านตากับธุรกิจตัวอื่นๆ มาบ้าง อย่าง ธุรกิจ MLM ตัวอื่นๆ ค่าสมัครก็จะอยู่ที่ 100 - 1,000 บาท หรือ อาจจะฟรีค่าสมัคร แต่ก่อนที่ท่านจะทำธุรกิจได้ ท่านจะต้องซื้อชุดผลิตภัณฑ์เพื่อทำธุรกิจ ซึ่งชุดผลิตภัณฑ์เหล่านี้ราคาจะอยู่ที่ 6,000 - 10,000 บาท เป็นอย่างต่ำ แล้วท่านก็ต้องเข้าสู่กระบวนการเดิมๆ ของธุรกิจเครือข่าย คือ โทรชวนคน ขายของ รักษายอดรายเดือน นัดคนเข้าประชุมตามโรงแรม ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้ ได้ค่าตอบแทนอย่างสม่ำเสมอจริง ตัวอย่างเช่น ใน 1 เดือนท่านอาจจะได้ 10,000 - 20,000 บาท จากนั้นท่านก็ต้องหาคนร่วมทำธุรกิจไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งอาจจะใช้เวลา 3 - 5 ปี เพื่อให้ได้บรรลุสิ่งที่ทุกคนปรารถนา คือ อิสระภาพทางการเงิน แล้วท่านเคยมองหรือไม่ค่ะว่า ก่อนที่ท่านจะได้รับอิสระภาพที่ต้องการ คนในครอบครัวท่าน พ่อแม่ พี่น้อง ลูก รอกันไหวหรือไม่ ก่อนหน้านั้นชีวิตของท่านจะเป็นอย่างไร

Global Rich Club เอาเงินจากที่ไหนเยอะแยะมาจ่ายให้เรา

สำหรับในเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนที่บริษัทให้เรา อยากจะให้ทุกท่าน มองในเชิงวิเคราะห์ อย่ามองแต่เพียงตัวเลข ที่เราเห็นอยู่ตรงหน้านะคะ ถ้าเราศึกษาแผนการตลาดให้ดี 
เราจะเห็นว่า กว่าที่เราจะผ่านกระดานสีส้ม 1 กระดาน เราต้องมี ทั้งหมดอย่างน้อย 32 รหัส ในกระดานที่ 1 ลองคำนวณกันเล่นๆ นะคะ ว่า 1 รหัส ราคา 200 US. หรือ 7500 B. ถ้า 32 รหัส คิดเป็นเงินเท่าไหร่ แล้วจ่ายค่าตอบแทน ให้เราเป็นจำนวน 400 เหรียญ คิดดูแล้วมันเป็นเงินเพียง 10 % เท่านั้นนะคะ ที่บริษัทจ่ายให้เราเป็นค่าตอบแทน 

และสำหรับกระดานที่ 2 ที่ได้ บริษัทให้เรา 8,000 US เป็นค่าตอบแทน กว่าจะขึ้นไปถึงบนสุดของกระดานม่วง เราต้องมีรหัสใต้ล่าง จากการร่วมกันทำงานของสมาชิกไม่ต่ำกว่า 100 รหัส ลองคิดเป็นเงินเล่นๆ นะคะ ประมาณ 9 แสนกว่าๆ เกือบล้านบาท แต่จ่ายเรา 8,000 US คิดไปคิดว่ายังไม่ถึง 25% ของรายได้ด้วยซ้ำ 

ทุกท่านอย่าลืมนะคะว่า การทำธุรกิจในรูป network marketing บริษัทประหยัดค่าโฆษณา
และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการนำสินค้าผ่านพ่อค้าคนกลางมาถึงมือเรา  ถึง 60%  แบ่งให้เรา

10 - 25% ก็ยังกำไรเห็นๆ ทุกอย่าง Global Rich Club จ่ายอย่างสมเหตุสมผล เมื่อเราทำงานให้กับบริษัท มันไม่ได้มากมาย หรือ เกินความเป็นจริงเลย

ณ เวลานี้ Global Rich Club เป็นธุรกิจที่เติบโตเร็วมาก เพราะกว่าที่ธุรกิจจะมีถึงมือเรา ผู้นำของเราได้ทดสอบระบบแล้วว่าจ่ายจริง ไม่หลอกลวง เราถึงเต็มที่กับมันได้ 

บริษัท Global Rich Club มั่นคงหรือไม่

Global Rich Club เปิดทำธุรกิจในอเมริกามา 10 กว่าปี เกือบ 20 ปีและก็อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ถ้าจะให้ตอบคำว่ามั่นคง ในมุมมองของธุรกิจดี้ตอบตามตรงว่า พูดยากจริงๆ ค่ะ เพราะว่าธรรมชาติของในการทำธุรกิจมี 2 อย่าง ไม่ได้ ก็ เสีย แต่ ณ เวลานี้ Global Rich Club ยังไม่เคยเบี้ยวใคร สมาชิกของเราทุกคนตอนนี้ จองที่พักได้ทุกคน ทำตามระบบก็ได้รับรายได้จริง เมื่อกระดานแตกเงินก็เข้าในระบบ E -Wallet ของเราทันที แต่ถ้าโอนเข้ามาเป็นเงินสดในบัญชีของเราก็จะใช้เวลาประมาณ 5 -  7 วันทำการ ไม่นับวันหยุดราชการ

การสมัคร 1 รหัส 3 รหัส 10 หรือ 20 รหัส ต่างกันอย่างไร

การสมัครมากกว่า 1 รหัส เป็นการย่นระยะเวลาในการทำงาน ตัวอย่างเช่น ถ้าเราสมัคร 1 รหัส เราใช้เวลาแนะนำคน 2 คน เป็นเวลา 1 เดือน แต่ถ้าเราสมัคร 3 รหัส เราก็มีคน 2 คนติดตัวเราตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงาน ซึ่งก็เข้าเงื่อนไขของการรับรายได้จากบริษัท ซึ่งทำให้เราย่นระยะเวลาในการสร้างรายได้ ได้ถึง 1 เดือน ถ้าสมัครมาก ก็จะช่วยย่นระยะเวลาในการทำงานไปได้อีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณ และ ความพร้อมของแต่ละท่าน อันนี้เราไม่บังคับกัน ไม่ว่าท่านจะสมัคร 1 รหัส หรือ 20 รหัส ท่านก็สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน ถ้าท่านจริงจัง และเต็มที่กับมัน เพียงแต่อาจจะใช้เวลามากกว่าเท่านั้นเอง 

ลองมาดูกันเล่นๆ นะคะ ความแตกต่างระหว่างการสมัคร 1 รหัส กับ หลายๆ รหัส

 

ไม่เก่งภาษาอังกฤษจะทำได้มั๊ย

ท่านที่อยากร่วมงานกับเราไม่ต้องกังวลเรื่องภาษามากนะคะ เพราะปัจจุบันเรามีเครื่องทุ่นแรงที่ช่วยเราทำธุรกิจมากมาย คิดอะไรไม่ออก ถาม Google เครื่องมือที่ทรงพลัง ที่สามารถตอบคุณได้ทุกเรื่อง สำหรับ Google มีเว็บแปลภาษาเพียงแค่ท่าน copy หน้าเวบภาษาอังกฤษที่ท่านไม่เข้าใจ แล้ว paste ลงไปในเว็บแปลภาษา รับรองว่า เพียงแค่ปลายนิ้ว Google หาล่ามให้ท่านได้ทันทีค่ะ ลองดูก็ได้นะคะที่ http://translate.google.com/ 

และที่สำคัญ Global Rich Club มีเว็บไซต์ภาษาไทย และระบบ Back Office ภาษาไทย ที่สมบูรณ์ที่สุดของการทำงานที่บ้าน หรือ work @ home ที่สมบูรณ์ที่สุด ณ เวลานี้ เรากล้ารับประกันค่ะ

ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วสำหรับท่าน เหลือแค่เพียงการตัดสินใจของท่านเท่านั้น

ไม่เก่งคอมพิวเตอร์จะทำได้รึเปล่า

สำหรับท่านที่สนใจในธุรกิจ อย่ากังวลกับเรื่องนี้มากนักนะคะ เพียงท่านสามารถใช้ internet เบื้องต้น อย่างเช่น การรับส่งอีเมลล์ เข้าดูเวบไซต์ต่างๆ ได้ ก็ถือว่าไม่มีปัญหาในการทำงานแล้วค่ะ เพราะว่า นอกเหนือจากนี้ เราสามารถเรียนรู้กันได้ถ้าเรา "เปิดใจ"

เพราะสิ่งสำคัญมากกว่าความรู้เรื่อง internet หรือ computer ก็ "ใจ" ที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมตลอดเวลาค่ะ